1.1) Social Analytics คือ เทคโนโลยีเกี่ยวกับตัววิเคราะห์คนเข้าชมเว็บ ช่วยวิเคราะห์ว่าคนที่เข้ามา ชมเว็บหน้าไหนบ้าง เข้ามาด้วย Browser อะไร ระบบ OS อะไร
1.2) NFC Payment หรือ Near Field Communication Payment คือ เทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบการจ่ายเงินของมือถือ เช่น ใช้สแกนบาโค้ด ในธนาคารบางแห่งก็ใช้เทคโนโลยีนี้แล้ว
1.3) Speech to Speech Translation คือ เทคโนโลยีตัวแปลงภาษาพูดภาษาหนึ่ง ให้เป็นอีกภาษาหนึ่ง เช่น เทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นหนึ่งใน Sumsung S4
1.4) Internet TV คือ TV ที่รับชมรายการปกติได้ และเลือกชมรายการจากอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน แต่ที่จะเพิ่มเข้ามานั้นจะมี softwarre และ cpu ขนาดเล็กในตัว สามารถที่จะอัดรายการได้ด้วย (ขึ้นกับสเป็คเครื่อง) เล่นอินเตอร์เน็ตบนจอทีวีได้ โดยใช้การเชื่อมต่อทั้งแบบสาย LAN และ Wi Fi โดยมีรีโมท ที่ปุ่มมากขึ้น
1.5) 3D Printing คือ เทคโนโลยีเกี่ยวกับการพิมพ์ 3D ลงบนผลิตภัณฑ์
1.6) RFID (Radio Frequency Identification) คือ มีลักษณะเป็นป้ายอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านค่าได้โดยผ่านคลื่นวิทยุจากระยะห่าง เพื่อตรวจติดตามและบันทึกข้อมูลที่ติดอยู่กับป้าย ซึ่งนำไปฝังไว้ในหรือติดอยู่กับวัตถุต่างๆ สามารถติดตามข้อมูลของวัตถุ 1 ชิ้นว่า คืออะไร ผลิตที่ไหน ฯลฯ รวมทั้งตำแหน่งที่ตั้งของวัตถุนั้น ๆ ในปัจจุบัน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการสัมผัสหรือต้องเห็นวัตถุนั้นๆ ก่อน ทำงานโดยใช้เครื่องอ่านที่สื่อสารกับป้ายด้วยคลื่นวิทยุในการอ่านและเขียนข้อมูล
1.7) sCRM คือ รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าบน Social Network เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
1.8) Hybrid Cloud Computing คือ เป็นการใช้บริการที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์ส่วนตัว กับ คลาวด์สาธารณะ ผู้ให้บริการแต่ละรายที่ให้บริการภายใต้คลาวลูกผสมนี้ ต่างทำงานแบบอิสระ ไม่ว่าจะเชื่อมโยงด้วยเทคนิคที่เป็นมาตรฐาน หรือเทคโนโลยีเฉพาะ จะต้องสามารถทำงานร่วมกันในระดับข้อมูลและระบบซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้
1.9) 4G Standard คือ เทคโนโลยี 4G เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้สามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง สามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที
2. อธิบายลักษณะเด่น ข้อดี/ข้อเสีย วิวัฒนาการของเทคโนโลยี Web1.0, Web2.0 และ Web3.0 มาให้เข้าใจมากที่สุด อาจวาดภาพประกอบ
Web1.0 The Web คือ ผู้เข้าชมสามารถอ่านได้อย่างเดียว เป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตในอดีต สำหรับการใช้ข้อมูลด้านเดียว เรียกว่า One Way Communication ระหว่างเว็บ 1 เว็บจะมีผู้ใช้ 1 คน คือ ผู้สร้างเว็บไซต์ (Webmaster) เป็นผู้ให้ข้อมูล และผู้เข้าชมเว็บเป็นผู้รับข้อมูล ส่วนมากจะให้ภาษา HTML ในการพัฒนา เช่น E-Mail, Chat Room, Download เป็นต้น
Web2.0 Social Web คือ ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ เป็นเครือข่ายสังคมที่เน้นการแบ่งปัน รูปภาพ สื่อต่างๆ รวมทั้งข้อมูลที่สมาชิกภายในกลุ่มเครือข่ายสังคมนั้นมีอยู่ โดยการสร้างเสริมข้อมูลสารสนเทศให้มีคุณค่าและถูกต้อง ทำให้ความรู้ถูกต่อยอดไปอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลทุกอย่างได้มาจากการเติมแต่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นการติดต่อ 2 ทาง เรียกว่า Two Way Communication ผู้ใช้ยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และนำเสนอ เช่น เว็บบอร์ด, เว็บบล็อก, วิพีเดีย เป็นต้น ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลมาเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้
Web3.0 Semantio Web ผู้ชมสามารถอ่าน เขียน จัดการ เป็นการนำแนวคิดของ Web2.0 มาทำให้สามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Metadata คือ ข้อมูลที่บอกรายละเอียดของข้อมูล ทำให้กลายเป็นเว็บ Semantic Web ซึ่งตัวเว็บจะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น แล้วให้ Tags ตามความเหมาะสม โดยข้อมูลแต่ละ Tag จะมีความสัมพันธ์กับอีก Tag หนึ่งโดยปริยาย ทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นฐานข้อมูลคลังความรู้ขนาดใหญ่ ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบมาก สำหรับเมืองไทยนั้นจะนำเข้ามาใช้ในอนาคต เทคโนโลยีบางอย่างที่คาดว่าจะนำมาใช้ใน Web3.0 ได้แก่ Artificial Intelligent (AI) เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือสมองกล, 3D หรือ Web 3 D Consortium เป็นรูปแบบ 3 มิติ
3. กล่าวถึง Web2.0 ที่รู้จักมา 5 เว็บ (ที่ได้ Present กันหน้าชั้นเรียน) และกล่าวถึงวิธีการพิจารณาเลือกใช้งาน Web2.0 เพื่อนำมาใช้พัฒนาเป็นเว็บไซต์พานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ว่าควรพิจารณาจาก ประเด็นใดๆ บ้าง เช่น ความยากง่ายในการใช้งาน...เป็นต้น
3.1 Webstarts.com เป็นเว็บไซต์ที่มีคุณสมบัติที่น่าใช้งานอีกเว็บหนึ่ง คุณสมบัติ 100 กว่าคุณสมบัติ มีตัวช่วยสร้าง SEO มีแอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือ และระบบ E-Commerce ที่เหมาะสมกับการทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้แรงผลักดันธุรกิจสามารถขายสินค้าและรับบัตรเครดิตออนไลน์กับร้านค้าออนไลน์
3.2 Webgarden.com เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างเว็บไซต์และ E-Shops ที่สร้างเว็บไซต์ภายในไม่กี่นาที สามารถใช้งานร่วมกับ Youtube, Facebook, Google Maps เป็นต้น
3.3 Webnode.com สมัครง่ายและรวดเร็ว สร้างร้านค้าออนไลน์ทำได้ภายในไม่กี่นาที ขายสินค้าและนำเสนอบริการออนไลน์โดยสร้างร้านค้าออนไลน์ฟรี ไม่จำเป็นต้องรู้จักการเขียนโปรแกรมเว็บใดๆ การตั้งค่า E-Shop ใช้งานง่าย ไม่มีโฆษณาบนเว็บไซต์ มีการจัดการเนื้อหา โอสติ้ง สถิติเว็บไซต์ เป็นต้น
3.4 Doomby.com ใช้สร้างเว็บไซต์ที่ให้บริการฟรี เพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ว่าจะต้องการหน้าเว็บที่มีจำนวนน้อยหรือมืออาชีพ ที่มีผลในการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ เว็บไซต์ E-Commerce โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ทางเทคนิค
3.5 Webs.com มีเครื่องมือที่ดีสำหรับการสร้างเว็บไซต์ระดับมืออาชีพ ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือแม่แบบและการใช้งาน ยังสร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไม่มีทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นด้วยโปรแกรมการออกแบบแม่แบบมืออาชีพ สามารถปรับแต่งด้วยโลโก้ สโลแกนของตนเองได้ในลักษณะตามที่ต้องการ สามารถประยุกต์ใช้งานทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เว็บไซต์ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น แสดงงานในแกลอรี่ภาพหรือวีดีโอได้ สามารถขายสินค้าในร้านค้าบนเว็บได้
4. ยกตัวอย่างโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่น พร้อมอธิบายคุณลักษณะเด่นๆ ของโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นนั้นๆ ให้ละเอียดที่สุด
4.1 ระบบปฏิบัติการ 3 ระบบ
4.1.1 Windows XP สวย ใช้งานง่าย ค่อนข้างเสถียร มีโปรแกรมที่ Support เยอะ มี Diver ติดมากค่อนข้างเยอะ ถ้า Joy Domain จะ log in / Log off ช้ามาก เปลืองหน่วยความจำเพราะ แอพพลิเคชั่นเยอะมากๆ Virus จะโจมตี มากว่าตัวอื่นๆ
4.1.2 Linux มีความเป็นอิสระ เสรี ปลอดภัย ไม่มีไวรัสแน่นอน เพราะอัพเดทตัวเองตลอดเวลา ติดตั้งรวดเร็ว หรือสามารถบูตตัวเองจากแผ่นเพื่อทดสอบใช้งานได้โดยยังไม่ต้องติดตั้ง สามารถเปิดเครื่องได้เป็นเดือนๆ โดยไม่ค้าง หรือ Restart ตัวเอง จึงนิยมนำไปทำ Server Driver อาจจะไม่รองรับ Hardware ใหม่ๆ เหมือนกับระบบปิด แต่ Linux จะมี Driver มาให้ใน Kernel แล้วทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหา Driver
4.1.3 Mac OS ไดัรับการออกแบบมาให้ใช้กับเครื่อง Macintosh เท่านั้นและไม่มีการวางจำหน่ายให้ติดตั้งใน PC ทั่วไป การใช้งานค่อนข้างอยู่ในวงจำกัด และไม่สามารถนำโปรแกรมที่รันบน Windows ไปติดตั้งและใช้งานใน Mac Os ได้ มีความสามารถในการประมวลผลด้านกราฟิกที่ค่อนข้างเหนือกว่า Windows จึงเป็นที่นิยมของหมู่นักออกแบบกราฟิกและวงการภาพยนตร์เป็นอย่างมาก
4.2 โปรแกรมสำนักงาน 2 โปรแกรม
4.2.1 Microsoft Word เป็นโปรแกรมที่นิยมในการประมวลผลคำ มีความสามารถในการจัดรูปแบบตัวอักษร ย่อหน้า ใส่รูปภาพ จดหมายเวียน และอื่นๆ อีกมากมาย
4.2.2 Microsoft Outlookเป็นโปรแกรมรับ/ส่งอีเมล มีความสามารถในการเชื่อมต่อเครื่องแม่ข่ายอีเมล แบบ IMAP, POP3 และ Microsoft Exchange Server
4.3 โปรแกรมประเภทจำลองเครื่อง (Virtual Machine) 2 โปรแกรม
4.3.1 VMware รองรับ OS ได้มากกว่าและหลากหลายกว่า รวมไปถึงมีโปรแกรมหลากหลายสามารถแปลง VM ที่สร้างจากโปรแกรมอื่นๆ ได้ด้วย ส่วนข้อเสีย คือ ไม่ฟรี
4.3.2 Virtual Box ข้อดีคือฟรี ข้อเสียคือ อาจไม่รองรับ OS มากเท่าไหร่ และอาจมีการบังคับบ้างในบางจุดรวมไปถึงโปรแกรมที่มารองรับมีน้อยมากจะ Import จาก VM ที่สร้างจากโปรแกรมอื่นๆ
4.4 โปรแกรมอื่นๆ ให้นักศึกษายกตัวอย่างเอง (ที่ได้นำเสนอ หน้าชั้นก็ได้)
4.4.1 VNC "Real VNC " เป็นโปรแกรมประเภท Remote Control จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง หรือระหว่างเครื่อง Client ไปยังเครื่อง Server
4.4.2 Rocket dock โปรแกรมเก็บและจัดเรียงไอคอน ช่วยจัดการกับไอคอนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยที่ยังสามารถเรียกใช้ไฟล์หรือโปรแกรมต่างๆ ได้สะดวกเหมือนเดิม
4.4.3 Keynote สุดยอด App นำเสนองาน จากค่าย Apple ซึ่งทุกครั้งในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากค่าย Apple นั้น Keynote คือเบื้องหลังความสำเร็จ ด้วยการสร้างรูปแบบการนำเสนอผลงานที่แสนเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหราดูดี
4.4.4 Blender 3D เป็นโปรแกรมสำหรับสร้าง 3 มิติ ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี ความสามารถเทียบเท่ากับโปรแกรมสร้างงาน 3D ทั่วไป มีการทำงานที่ไม่ซับซ้อนและมีเครื่องมือที่ใช้งานง่าย
น.ส. นนทนพร แซ่ฟู 2561051542308